ไปเจอบทความดีๆของหมอจิรรุจน์มาค่ะเอามาฝากกันน้าาาา
ไม่ว่าจะออกกำลังเบา-หนัก
ร่างกายไม่ค่อยอยากใช้
ไขมันเท่าไหร่หรอกครับห๊า! รู้ได้อย่างไรครับ
เรื่องนี้ ผมเคยสงสัยมานานแล้วที่มีคนพูดว่า ให้ออกกำลังกายเบาๆระดับ Cardio แล้วร่างกายจะใช้ไขมันในช่วงนั้นเป็นส่วนใหญ่…
ผมพยายามหาที่มาที่ไปของ ข้อมูลดังกล่าว เขาใช้หลักฐานเชิงประจักษ์แบบไหนในการบอกว่าเป็นเช่นนั้น
พอได้ มาศึกษากับตัวเอง ผมทำการทดลองอยู่นับ 10 ครั้ง นั่นคือการออกกำลังกายในช่วง fasting แล้วเจาะปลายนิ้ววัดระดับคีโตนก่อนกับหลัง การออกกำลังกาย สิ่งที่พบเหมือนกันแทบทุกครั้งคือ
ระดับคีโตนหลังออกกำลังกาย ลดลงจน แทบจะเป็นศูนย์ หรือไม่ได้อยู่ในภาวะ nutritional ketosis เลย
ไม่ใช่ครั้งเดียว หรือออกกำลังกายแบบ h i i t อย่างเดียว ที่ทดลอง…
เอาแค่เดินรักษาระดับ การเต้นหัวใจไว้ที่โซน 2 ก็ให้ผลในลักษณะเดียวกัน
เจาะ ปลายนิ้วจนแทบด้านไปหมดแล้ว
ก็ไม่เคยเห็นว่า การสลายไขมันมันจะเพิ่มขึ้น จะมีระดับคีโตนเพิ่มขึ้น หลังการออกกำลังกายเสียทีตอนนั้นผมคิดในใจว่า ถ้ามีเครื่องที่สามารถติดตามระดับคีโตนอย่างต่อเนื่องได้เหมือนน้ำตาล ผมจะต้อง เอฟมันมาเพื่อทดลองเรื่องนี้ให้ได้
ในที่สุด ผมก็ได้เครื่องนั้นมาแล้วได้ทำการทดลอง และผลการทดลองก็ออกมาตามภาพ
ก่อนออกกำลังกายในเช้าวันนั้น ผมรับประทานอาหารและปรับการกิน จนพาตัวเองเข้าสู่ภาวะคีโตซิสแบบเข้มข้น
GKI 2 ก่อนที่จะเข้านอน เพื่อดูให้ชัดๆ แบบไม่ต้องสงสัยเห็นในกราฟไหมครับ ระดับคีโตนตลอดทั้งคืนผมอยู่ในระดับเข้มข้น
ทันทีที่ตื่นเช้า แล้วมาออกกำลังกายแบบง่ายๆ ระดับการเต้นของหัวใจอยู่แค่ 110 ครั้ง(baseline 70 bpm) สั้นๆเพียง 15 นาที แต่ตอนท้ายอาจจะหนักบ้าง เพราะมีการวิดพื้นและsquat อีกประมาณ 3 เซ็ทสิ่งที่เห็นเป็นตามภาพเลยครับ
ระดับคีโตนลดลงอย่างรวดเร็ว ตามกราฟ ที่เห็นดังภาพ
ถ้าดูในเครื่องวัดระดับน้ำตาล ด้วยจะเห็นว่า ระดับน้ำตาลจาก 78 พุ่งไปเป็น 105 mg/dl
นี่เป็นการคอนเฟิร์มสิ่งที่ผม ได้เจอมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และจริงอย่างที่ผมพูดอยู่เสมอว่า
เมื่อคุณมีการขยับกล้ามเนื้อ หรือออกกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับ การเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น
ร่างกายของเราจะรับรู้การตอบสนองดังกล่าว และกระตุ้นระบบประสาทตื่นตัวหรือซิมพาเทติก (sympathetic)
เพื่อปลุกให้ทุกระบบในร่างกายรู้ว่า ขณะนี้เราอยู่ในสภาวะที่ต้องตื่นตัว เพื่อเอาตัวรอดอะไรสักอย่าง
แหล่งพลังงานที่เราจะต้องใช้ จะต้องเผาผลาญได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้กระบวนการมากมาย และแหล่งพลังงานนั้นคงหนีไม่พ้น
น้ำตาลกลูโคส
สิ่งที่ร่างกายจะทำ ในตอนนั้นก็คือ switch การใช้พลังงานจากไขมันและคีโตน ที่กำลังมีอยู่ตอนนั้น มาใช้พลังงานจากน้ำตาลกลูโคส
และเร่งปฏิกิริยา ในการสร้างน้ำตาลกลูโคสใหม่ (Gluconeogenesis)
เพื่อให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่สูงขึ้น เพียงพอที่จะส่งไปให้กล้ามเนื้อต่างๆ สำหรับการออกแรงที่กำลังจะเกิดขึ้น…ระดับของคีโตนจึงลดลง เพราะไม่มีการสลายไขมันออกมาใช้ สร้างเป็น
คีโตนบอดี้$$$$$
ผมจึงย้ำมาตลอดว่า อย่าใช้การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือในการสลายไขมันเพื่อลดความอ้วน
ที่คิดกันว่า กินแล้วเดี๋ยวไปเบิร์นทิ้ง
ก็คือคุณเบิร์นน้ำตาลที่ ได้จากการกินเมื่อสักครู่ แต่ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม หรืออาจจะสลายออกมาในอัตราที่น้อยมากๆ
เราควรเก็บการออกกำลังกายนั้น ไว้เพื่อจุดประสงค์ได้แก่
- เพิ่มที่เก็บแป้งไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ และที่ตับ เมื่อเวลาเรากลับไปกินคาร์โบไฮเดรต จะได้ไม่เหลือน้ำตาลกลูโคส มาเก็บเป็นไขมันตามกระบวนการ de novo lipogenesis
- เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ เป็นตัวเขมือบไขมัน เวลาที่คุณ งดกิน หรือ fasting
- เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ของกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ การออกกำลังกายเป็นประจำ โดยที่มีการพักผ่อนเพียงพอ จะช่วยเพิ่มความไวต่อการตอบสนอง ต่อฮอร์โมนอินซูลิน หรือพูดง่ายๆ ช่วยแก้ไขภาวะดื้ออินซูลินนั่นเอง
- ฝึกความเข้มแข็ง ให้กับระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจ แล้วยังเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของตนเอง ถึงความสามารถในการออกกำลังกายด้วย
ใน 4 ข้อนี้ ไม่มีข้อไหนเลยที่พูดเรื่องขอประโยชน์ในเรื่องของการออกกำลังกาย เพื่อช่วยในการสลายไขมัน
เพราะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นี้ ถูกออกแบบมา เพื่อให้อยู่รอดในสภาวะวิกฤต (fight or flight) เพื่อคงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์แบบเรามานับล้านปีแล้ว
ในยุคดึกดำบรรพ์ หรือมนุษย์ที่เป็น นักล่าเพื่อหาอาหาร ถ้าเราไม่มีระบบเผาผลาญที่ชาญฉลาดแบบนี้
เราคงสูญพันธุ์ และไม่มี สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อยู่บนยอดสุดของพีระมิด
ปล. ผมเคยถูกกล่องข้อความ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย มาต่อว่า สิ่งที่ผมเคยพูด ข้างต้น แบบไม่มีชิ้นดี ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ผมได้พิสูจน์สิ่งที่ผมพูด ทั้งในทางทฤษฎี ตามหลักชีวะเคมี
และการทดลองเชิง กับตนเองช้ำแล้วซ้ำเล่าให้เห็นแล้ว หวังว่าท่านจะได้นำสิ่งที่ผมทดลองนี้ ไปเก็บไว้สัก ที่ นึงเล็กๆของหัวใจ บ้างก็ได้นะครับ
จริงๆมีให้พูดให้ละเอียดกว่านี้ คิดว่าเดี๋ยวเก็บไว้ Live ดีกว่า เพราะเรื่องนี้อย่างเดียวก็คุยกันได้เป็นชั่วโมง สนุกมาก
ปล.2 ดูกราฟที่ต่อจาก หลังออกกำลังกายหลังระดับคีโตน จะเห็นว่า ถ้าผมยัง fasting ต่อไป ระดับคีโตนก็จะพุ่งกลับมาเหมือนเดิมครับ…
แต่ที่อยากเน้นก็คือ ตอนที่คุณกำลังออกกำลังกายนั้น ไม่มีหรอกครับ การพุ่งของคีโตนที่เกิดจากการสลายไขมันหนักๆ
หมอจิรรุจน์ #ckm